ตาแพ้แสง : อาการ สาเหตุ การรักษา การป้องกัน อย่างได้ผล

ตาแพ้แสง อาการ สาเหตุ การรักษา การป้องกัน อย่างได้ผล
อาการตาชนิดนึงที่เกิดขึ้นได้บ่อยในปัจจุบัน คือ ตาแพ้แสง ทำให้ใช้ชีวิตได้ยากลำบากมากขึ้น ในการมองภาพต่างๆ เพราะมันจะรู้สึกระคายเคืองตา เวลาพบเจอแสงจากแดด หรือ หลอดไฟ หากไม่ได้มีอาการรุนแรงก็เพียงสร้างความรำคาญให้กับดวงตาของและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากเป็นรุนแรงแนะนำว่าต้องรีบไปพบแพทย์โดยด้วยด่วนเพื่อดูแลให้ทันก่อนที่จะพบเจอกับปัญหาโรคตาร้ายแรงอื่นๆ ตามมา Health30Plus ของเล่าเกี่ยวกับปัญหาตาแพ้แสงแดด เพื่อหาทำความรู้จัก และ หาวิธีแก้ไขและป้องกัน ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย

อาการตาแพ้แสง

อาการแสบตา ตาแพ้แสง (Light Eye Allergy) คือ อาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยขึ้นอยู่กับหลายๆ ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม การใช้ดวงตาแบบหนักหน่วง ซึ่งจะทำให้เกิดตาแพ้แสงขึ้นมาได้ ซึ่งจะมีอาการต่างๆ ดังนี้ ที่บ่งชี้ว่า คุณกำลังมีอาการของตาแพ้แสงอยู่

  • แสบตา
  • ตาแดง
  • ไม่สบายตา
  • ระคายเคืองตา
  • มีน้ำตาไหลออกมามากกว่าปกติ
  • หลับตาหรือหรี่ตาเวลาเจอแสง
  • บางรายมีน้ำสีเขียวหรือเหลืองไหลออกมาจากกดวงตา

สาเหตุตาแพ้แสง

สาเหตุของตาแพ้แสงนั้นเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยของ ดวงตา เชื่อมกับ สมอง โดยตรง ซึ่งปัญหาหลักที่เกิดขึ้นมาจากการเป็นไมเกรน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้แสงและปวดหัว รวมอยู่ด้วย จักษุแพทย์จะอธิบายสาเหตุของอาการจะแยกเป็น 2 ลักษณะ คือ ปัญหาจากทางสมอง และ ปัญหาจากดวงตา ซึ่งจะแบ่งจากเหตุดังนี้

สาเหตุจากสมอง

  • สมองเสื่อม
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • เคยได้รับบาดเจ็บทางสมอง

สาเหตุจากดวงตา

  • ตาแห้ง
  • กระจกตา เสียหาย หรือ ถลอก
  • เยื่อยุตา ตาขาว อักเสบ

หากพบคุณหมอ คุณหมอจะบอกเองว่าสาเหตุจริงๆ เกิดจากอะไร นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากการแพ้ยาต่างๆ ด้วย ซึ่งคุณหมอจะถามข้อมูลต่างๆ ผู้ป่วยควรบอกข้อมูลตามความจริง และ บอกให้ครบถ้วน เพื่อให้คุณหมอมีข้อมูลที่เพียงพอและรักษาได้อย่างถูกต้องนั้นเอง

รักษาตาแพ้แสง

ขั้นตอนการรักษาตาแพ้แสง เริ่มจากเข้าพบคุณหมอ คุณหมอก็จะถามอาการเบื้องต้น และ เริ่มทดสอบดวงตาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การวัดสายตา การตรวจฟิล์มน้ำตา การตรวจตาดวงเคื่อง Slit-Lam หรือ ตรวจด้วยเครื่อง MRI Scan เพื่อให้ได้ข้อมูลทั้งหมดก่อนที่จะมาวิเคราะห์และหาทางแก้ได้อย่างตรง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ตาแพ้แสงไม่รุนแรงมาก เราก็สามารถดูแลตัวเองได้เบื้องต้นอย่างปิดม่าน ลดแสงในที่พักหรืออาคาร เพื่อเลี่ยงการเจอแสงทั้งจากแสงแดดหรือแสงไฟในตึกที่สว่างเกินกว่าดวงตาจะหลับไว้

หากมีอาการที่รุนแรง วิธีการรักษาตาแพ้แสงจะแบ่งได้ดังนี้

  • ใช้น้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุมชื่นให้กับดวงตา
  • การใช้ยาตาที่จักษุแพทย์สั่ง ขึ้นอยู่กับว่า ปัญหาดวงตานั้นเกิดจากอะไร แบคทีเรีย ไวรัส หรือ เชื้อรา ขึ้นอยู่กับคุณหมอจะสั่งให้ ซึ่งต้องใช้หรือทานยาให้ครบตามคำสั่งของหมอ

วิธีป้องกันตาแพ้แสง

สำหรับการป้องกันโรคตาแพ้แสงนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการ เพราะบางสาเหตุอาจจะป้องกันได้ยากขึ้น หากมีส่วนของโรคอื่นแทรกซ้อน เช่น ไมเกรน หากไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ก็สามารถใช้วิธีเหล่านี้เพื่อป้องกันได้

  • พักสายตาด้วยการหลักตาลงสักพักนึง
  • ลดการสวมคอนแทคเลนส์ ในขณะมีอาการ เพราะ จะทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น
  • พยายามใช้ลดแสงไฟในที่ห้องหรือที่ทำงาน เพื่อไม่ให้มีแสงที่จ้ามากเกิดไปจนทำให้เจ็บตา
  • ดูแลรักษาอาการเบื้องต้นของโรคตาแพ้แสง เช่น ตาแห้ง ตาอักเสบ
  • การใช้แว่นกันแดด ส่วนหมวก เวลาออกไปข้างนอกที่ต้องเจอแสง ก็เป็นการช่วยป้องกันดวงตาได้ดีในระดับนึง
  • สำหรับผู้หญิงไม่มีใคร เครื่องสำอางบริเวรดวงในช่วงที่กำลังมีปัญหาดวงตาอยู่
  • หากไม่มีเวลาให้ทานวิตามินดูแลดวงตาที่มีส่วนของ วิตามินเอ ลูทีน ในประมาณที่เหมาะสม
วิธีการป้องกันก่อนที่จะเป็นตาแพ้แสงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการดูแลเพื่อไม่ให้มันตาแพ้แสง ซึ่งเราทำได้โดยการดูแลตัวเองให้ตัวเองแข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลดวงตาตัวเองเป็นประจำ ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวง เป็นการแก้ไขปัญาหาดวงตาได้อย่างตรงจุดที่สุด ซึ่งหากใครไม่มีเวลาแนะนำให้ทานอาหารเสริมดวงตาที่มี ลูทีนและซีแซนทีน ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของดวงตาในแต่ละวัน มีงานวิจัยแนะนำให้ทาน 20mg ต่อวัน จะเป็นการฟื้นฟูและป้องกันดวงตาให้ดีขึ้นได้ ปัญหาตาส่วนใหญ่คนมักจะมองข้าม ดังนั้น หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แนะนำให้เริ่มดูแลดวงตากันตั้งแต่ตอนนี้
แหล่งข้อมูล
  • ตากลัวแสง : https://www.essilor.co.th/vision/eye-problems/photophobia
  • What Is Photophobia? : https://www.webmd.com/eye-health/photophobia-facts

แนะนำอาหารเสริมฟื้นฟูดวงตาจากงานวิจัย

Herbitia Lutein ที่มีสารสกัดเข้มข้นจากอิตาลี