คอร์ติซอล คือ (Cortisol) ฮอร์โมนแห่งความเครียดของชีวิต

คอร์ติซอล คือ (Cortisol) ฮอร์โมนแห่งความเครียดของชีวิต

ปัญหาของทุกเพศทุกวัยตอนนี้มีความเครียดมากมายเหลือเกินที่ต้องแบกรับ โดยเฉพาะคนที่มีความรับผิดชอบที่สูงช่วงชีวิตเริ่มต้องการความมั่นคง อย่างคนอายุ 30+ จะเริ่มพบเจอความเครียดและความกดดันที่สูงมาก ความคาดหวังที่สูงก็ส่งผลให้ความเครียดทีวีความรุนแรงอย่างมากทำให้ ฮอร์โมนคอร์ติซอล ออกมามากจนทำให้ สมอง ร่างกาย เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา วันนี้ Health30Plus ชวนมาทำความรู้จัก ฮอร์โมนความเครียด ตัวนี้กันดีกว่า

Cortisol คอร์ติซอล คืออะไร?

คอร์ติซอล Cortisol คือ ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากต่อมหมวกไต เป็นฮอร์โมนซึ่งจำเป็นต่อระบบการใช้พลังงานของร่างกาย ที่ช่วยในการลดการอักเสบในส่วนต่างๆ ของร่างกาย รักษาเรื่องความดันเลือดให้สมดุล รักษาระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อพอดีกับร่างกาย แต่ หากฮอร์โมนความเครียดนี้มีมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายและอารมณ์คุณอย่างมาก

ฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำงานผิดปกติจะเป็นอย่างไร?

เมื่อร่างกายมีคอร์ติซอลทีมากขึ้นไปจะส่งผลร้ายต่อร่างกายหลายประการ

  • นอนไม่หลับ เป็นเพราะโดยปกติคอร์ติซอลจะพุ่งสูงตอนเช้า แต่ถ้าเครียดมากเกิดไปคอร์ติซอลจะมาออกช่วงกลางคืน ส่งผลให้นอนไม่หลับได้ ก็ส่งผลให้เกิดการอดนอน ก็ทำให้ตื่นเช้าไม่สดใส นอนไม่พอก็ทำงานได้ไม่ดี ทำงานได้ไม่ดีก็ส่งผลต่อหน้าที่การงาน ส่งผลกับหน้าที่การงานก็กระทบกับครอบครัว ความเครียดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
  • อารมณ์รุนแรงขึ้น ความเครียดที่สะสมจะเปลี่ยนแปลงให้คนที่ใจเย็นมีอารมณ์ที่รุนแรงมากขึ้นได้ เพราะระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายสูบฉีดตลอดเวลา นอนไม่พอ ยิ่งแบกรับความกดดันเยอะเท่าไหร่ อารมณ์ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลต่อชีวิต คนรอบตัว หน้าที่การงานอย่างมากแน่นอน
  • ระบบภูมิคุ้มกัน การนอนไม่พอส่งผลต่อภูมิคุ้มกันอย่างมาก ซึ่งหากภูมิคุ้มกันลดต่ำลงก็จะทำให้เชื้อโรคต่างๆ เข้ามาในร่างกายได้ง่าย มีงานวิจัยหลายชิ้นบอกว่า การนอนไม่พอส่งผลให้เกิดเซลล์มะเร็งในร่างกายมากขึ้นอีกด้วย และ ความเครียดคือสาเหตุของการทำให้นอนไม่หลับจนให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องนั้นเอง
  • ปวดหัว ปวดหลัง เมื่อมีความเครียดกล้ามเนื้อในร่างกายจะเกิดการตึง จนทำให้เกิดการปวดหัว ปวดหลัง ปวดตัวได้ รู้ไหมว่า คอร์ติซอล จะทำให้รู้สึกถึงอาการปวดต่างๆ ได้เร็วกว่าปกติอีกด้วย
  • หิวบ่อย คอร์ติซอลที่มากไปจะให้ความต้องการอาหารมากขึ้นเพราว่า ระดับน้ำตาลในเลือด และ อินซูลินแกว่ง ทำให้รู้สึกต้องการแป้งของหวาน ส่งผลให้เกิดไขมันสะสม หรือ อ้วนมากขึ้น มากกว่านั้น เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่สองด้วย
  • ระบบทางเดินอาหาร คอร์ติซอลที่สูงจะทำให้เกิดการท้องอืด และ ส่งผลต่อกระเพาะอาหารให้มีกรดที่เยอะมากขึ้น ทำให้เกิดการท้องร่วง หากปล่อยไว้ ส่งผลให้เกิดการเป็นโรคกระเพาะ อาเจียน หากท้องมีปัญหาก็ส่งผลต่อภาวะซึมเศร้าอีกด้วย
  • ซึมเศร้า ความเครียดสะสม หากไม่รีบดูแลรักษาจะส่งผลอย่างมากต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ในที่สุด เพราะ ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติก็จะส่งผลให้สารเคมีในสมองบางตัวทำงานมาก หรือ น้อยกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะซึมเศร้าได้นั้นเอง หากปล่อยไว้ไม่ดูแลรักษาก็อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียได้

ในความเป็นจริงแล้ว คอร์ติซอล จะทำงาน รวมกับ ฮอร์โมนอะดรีนารีน ด้วย ร่างกายจะเข้าสู้ภาวะสู้หรือหนี ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง ร่างกายเกิดความเครียดอย่างมหาศาล โดยปกติเมื่อสมองรู้ว่าอยู่ภาวะเครียดต่อเมื่อเจออันตราย ซึ่งเจอได้ไม่บ่อย แต่ในยุคปัจจุบัน เราอยู่ภาวะเครียดอยู่แทบตลอดเวลา ทำให้ฮอร์โมนทั้ง 2 ตัวนี้อยู่กับเราตลอดทำให้สมองและร่างกายยิ่งเครียด ยิ่งกดดันนั้นเอง

วิธีการจัดการ ฮอร์โมนความเครียด

ความเครียดจากคอร์ติซอล เกิดจากการนอนให้เพียงพอซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งสูงสุดในช่วงเช้า และ ลดลงในช่วงบ่าย ต้องเข้าในถึงกระบวนการทำงานของฮอร์โมนเสียก่อน จะได้จัดการเรื่องความเครียดจากฮอร์โมนได้ดีขึ้น

พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับวันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นสิ่งที่ควรมากๆ เพราะมีงานวิจัยต่างๆ พูดตรงกันว่า การหลับได้ดีขึ้นส่งผลให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ระหว่างหลับร่างกายจะถูกซ่อมแซมเพื่อให้พร้อมใช้งานมาก ความเครียดต่างๆ ในร่างกายก็จะลดลง

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นการเพิ่มสารความสุขในร่างกายให้มากขึ้น เพื่อลดระดับความเครียดมากขึ้น มีงานวิจัยยืนยันว่า หลังออกกำลังกายจะร่างกายจะปล่อยสารความสุขออกมา ถ้าลองสังเกตจะพบว่า เมื่อวิ่งเสร็จจะรู้สึกดีกับตัวเองและมีความสุขมากขึ้น ลองหาเวลาวิ่ง 30-45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน ความเครียดน่าจะลดลงได้มากเลยทีเดียว

ทำสมาธิเป็นประจำ

งานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับการทำสมาธิ ช่วยให้สมองทำงานลดลง ความเครียดฟุ่งซ่านต่างๆ ลดลง ความเครียดก็ลดลงตามไปด้วย อย่างบริษัทระดับโลกอย่าง Google , Facebook , Apple ก็ให้พนักงานทำสมาธิด้วย การทำสมาธิเป็นประจำนั้นจะช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด นอนไม่หลับ ภูม้แพ้ ไมเกรน ตัวฮอร์โมนคอร์ติซอลก็จะกลับมาอยู่ภาวะสมดุลได้

ทานอาหารบำรุงสมอง

การทานอาหารที่ดีในแต่ละวันก็ส่งผลต่อร่างกายอย่าง โอเมก้า 3 หรือ กลุ่มวิตามิน บี 1, บี 6 , บี 12 พวกนี้ก็จะส่งผลต่อสมองให้ทำงานได้ดีขึ้น ความเครียดลดลง หรือ อย่างสมุนไพรที่ที่รู้จักกันในชื่อ กิงโกะ ก็ช่วยในการบำรุงสมองที่ใช้กันมานับพันปี ก็เป็นตัวช่วยในการลดความเครียด ฟื้นบำรุงความทรงจำ ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ป้องกันโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

สรุป คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนที่หากอยู่ภาวะสมดุลเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย แต่หากมีมากขึ้นเกิดไปจะส่งผลต่อความเครียด อารมณ์ โรคภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย ต้องเรียนรู้วิธีการดูแลและรับมือกับฮอร์โมนความเครียดนี้ให้ดีก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อตัวเอง

แหล่งข้อมูล