5 สุดยอดสมุนไพรไทย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด-19

5 สุดยอดสมุนไพรไทย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด-19

โควิด 19 โรคระบาดที่แพร่กระจายอย่างต่อเนื่องทุกวัน กับ ผู้คนที่รอคอยความหวังในการได้รับวัคซีนได้ครบทุกคนให้เร็วที่สุด ระหว่างที่รอคอยวัคซีนเราต้องมีอาวุธและเกาะป้องกันตัวเองจากโรคร้ายนี้ ด้วย สมุนไพรไทย ที่มีฤทธิ์ต่อสู้ และ ป้องกัน ไวรัสโควิด ทาง Heatlh30Plus ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้จัดการโควิด จากรายได้โหนกระแส มาคัดเฉพาะ ส่วนสำคัญให้ทุกคนได้อ่านกัน

5 สมุนไพรไทย ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัสโควิด 19

ฟ้าทะลายโจร

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีแพทย์แผนไทย และ แพทย์ทางเลือก ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ฟ้าทะลายโจรอยู่ในการแพทย์แผนไทยมานานมาก เป็นยาหลักแห่งชาติเพื่อรักษาโรคหวัดมายาวนาน พอมาเจอโควิดก็เลยร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์นำฟ้าทะลายโจรมาศึกษา จนมาเจอ สารแอนโดรกราโฟไลด์ สารตัวนี้ได้ทำการทดลองในหลอดทดลองพบว่า ไม่สามารถป้องกันไวรัสเข้าเซลล์ได้ แปลว่า ป้องกันไม่ได้ แต่ทำให้ไวรัสไม่เพิ่มจำนวนหรือยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสในร่างกายได้

จากนั้นลองในคนและตรวจดูทุกอย่างว่ามีผลอันตรายไหม จนมาทดลองที่สมุทรปราการ จากผู้ป่วย 57 ราย ที่ได้รับเชื้อใน 72 ชั่วโมงแรก จากคน 2 กลุ่ม กลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจร 29 ราย และ กลุ่มที่ไม่ได้รับฟ้าทะลายโจร 28 ราย ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ไม่ได้รับฟ้าทะลายโจร มีปอดอักเสบ 3 ราย ส่วนกลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจรไม่มีใครเป็นปอดอักเสบเลย

จากนั้นได้ขยายเพิ่มขึ้นต่างที่อื่น จากคนที่เป็นโควิด 539 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับ ฟ้าทะลายโจร 243 ราย และ กลุ่ม ไม่ได้รับฟ้าทะลายโจร 296 ราย พบว่า กลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจรมีคนเป็นปอดอักเสบ 1 คน คิดเป็น 0.3% และ กลุ่มที่ไม่ได้รับฟ้าทะลายโจร มีคนเป็นปอดอักเสบถึง 71 คน คิดเป็น 24.14%

ต่อมาได้พัฒนาไปใช้ที่ รพ และ เรือนจำต่างๆ แต่ไวรัสก็ได้พัฒนาตัวเองสู่เดลต้า ทำให้คนเป็นปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 3.85% ซึ่งทานก็ดีกว่าไม่ทาน

การรักษาโดยสมุนไพร ใช้สำหรับคนที่มีอาการไม่ได้เยอะ อาการเบื้องต้นสำหรับคนที่อายุ 12-60 ปี หากมีอาการหนักก็ใช้ยาที่คุณหมอสั่งจ่ายยาอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับสมุนไพร

ฟ้าทะลายโจร ควรทานเพียง 5 วันติดต่อกัน จะไม่มีผลต่อตับไต ข้อเสียของฟ้าทะลายโจร คือ เป็นยาฤทธิ์เย็นทานนานๆ จะทำให้ร่างกายเย็นจนเกินไปตามข้อมูลแพทย์แผนไทย ส่วนแพทย์แผนปัจจุบันมี 2 ส่วน 1.เกี่ยวกับน้ำนม 2.ทำให้เลือดเย็นช้าลง

ทาน สารแอนโดรกราโฟไลด์ ให้ทานได้ 180 มก ต่อวัน แต่แบ่งการทานเป็น 3 ครั้งต่อวัน และ กินติดต่อกันได้เพียง 5 วันแล้วหยุด ต้องดูข้างกล่องอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ และ คำนวณเอง ว่า เราต้องทานวันละกี่เม็ต กี่แคปซูลให้ได้ตามที่ควรจะทานในแต่ละวัน เพื่อรักษาไวรัสโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวัง คนที่แพ้ฟ้าทะลายโจรไม่ควรทาน, คนท้อง คนให้นม ไม่ควรทาน , คนที่ทานยากันเลือดแข็งตัว ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ดังนั้น ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

กระชายขาว

นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตรการแพทย์ เลขาธิการสมาคมเวชกรรมไทย อดีตนายกสภาการแพทย์แผนไทย ได้ให้ความรู้ว่า สมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนอย่างกระชายขาว จะกระตุ้นธาตุไฟ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทั่วไป (ภูมิคุ้มกันเฉพาะโรคมาจากการฉีดวัคซีน) ซึ่งก็มาจากทานอาหาร การออกกำลังกาย การหายใจเอาอากาศบริสุทธ์เข้าไป การทานกระชายทุกวันจะทำให้ร่างกายร้อนเกิน เกิดร้อนใน ทำให้เซลล์ประสาทเสียสมดล ดังนั้น ไม่ควรทานทุกวัน ถ้าจะทานควรทานแบบการต้ม และ ปกติของไทยจะต้มร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ

แต่เราก็สามารถเอาสารสกัดออกมาจากกระชายขาวได้ อย่างที่ มหิดล ได้ออกงานวิจัยมาว่า มีสาร Pandulatin A , Pinostrobin ที่ช่วยการยับยั้งการผลิตไวรัสได้ (ในหลอดทดลอง) ซึ่งดีกว่าขิงถึง 20 เท่า ดีกว่าฟ้าทะลายโจร 10 เท่า เท่าที่อ่านในบางงาน ก็บอกว่า ควรทานเกิน 7 วัน เว้นสัก 3 วัน ค่อยมาทานใหม่ และ สังเกตุตัวเองถ้ามีปัญหาก็เว้นนานสักหน่อย

มีการทดลองในเรือนจำ จากคน 2 กลุ่ม กลุ่มที่ทานฟ้าทะลายโจรและกระชายขาว กับ กลุ่มที่กินฟ้าทะลายโจรอย่างเดียว

ในตำรายาไทย การทานกระชายขาวที่ฤทธิร้อน จะต้องมีการผสมน้ำผึ้งที่มีฤทธิ์เย็นลงไป มะนาวฤทธิ์เปรี้ยวลงไป เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่เยอะเกินไป

กระชายขาว จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ติดเชื้อได้ยากขึ้น ปกติใช้การต้ม เพราะการต้มก็เป็นการสะกัดเอาสารออกมา อ่านเพิ่ม คลิก > งานวิจัย สารสกัดกระชายขาว ช่วยต้านโควิด 19

สรุป สำหรับกระชายขาว หายังไม่ติดเชื้อ ก็กินเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน

ตรีผลา

ประกอบด้วยสมุนไพรสามตัว คือ สมอพิเพก สมอไทย มะขามป้อม ใช้ต้ม ในสัดส่วน 1 ต่อ 1 ต่อ 1 ใช้ทุกอย่างในปริมาณที่เท่ากัน แต่ใช้เฉพาะคนที่ไม่ป่วย

ซึ่งการทานในโรคอื่นๆ ก็กินในปริมาณที่แตกต่างกัน

ขิง

ขิงเป็นสมุนไพรรสร้อน ก็จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว สามารถทานน้ำขิงก็ได้ ซึ่งสามารถน้ำไปต้มรวมกับกระชายก็ได้ก็ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้มากขึ้นไปอีก แต่ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ทานเพียง 5-7 วัน แล้วหยุดพัก เพราะการทานติดๆ กัน จะทำให้ร่างกายเสียสมดุล ป่วยแท้ที่จะได้มีภูมิคุ้มกันเพิ่ม

พลูคาว

ข้อมูลงานวิจัยเยอะ นอกจากมาทำเป็นอาหารแล้ว ทางแพทย์แผนไทย ตัวพลูคาวก็มีรสร้อน ก็ช่วยเรื่องเพิ่มภูมิคุ้มกันเหมือนกัน พอไปศึกษาในทางเคมีก็มีสารเยอะ กลุ่มน้ำมันหอมระเหยกว่าสามสิบชนิด มีสารอื่นๆ อีกเยอะแยะ รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ด้วย (มีการทดลองในเฉพาะในหลอดทดลองและในสัตว์เท่านั้น) นอกจากนี้ก็มีฤทธิ์ต้านไวรัส นึ่งในตัวนั้นคือไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ด้วย มีฤทธิยับยั้งโรคซาร์ในปี 46 ด้วย

สมุนไพรทั้งหมดที่พูดมาจากงานวิจัยส่วนใหญ่มาจากการทดลองในหลอดทดลอง หรือ ในสัตว์ (นอกจากฟ้าทะลายโจร) เท่านั้น ดังนั้นเบื้องต้นแนะนำให้ทานเป็นอาหาร และ ไม่ควรกินมากเกินไป

คำเตือนสำหรับการใช้สมุนไพรเพื่อป้องกันโควิด

  • ให้ทานแบบคิดว่าเป็นอาหาร ไม่ใช่ ทานเป็นยา
  • การทานอาหารเสริมสมุนไพรเหล่านี้ ต้องถามผู้ขายทุกครั้งว่า ทานได้นานสุดกี่วัน ห้ามกินต่อเนื่องเกิน 5-7 วัน
  • ดูข้างกล่องเสมอว่า แต่ละเม็ดหรือแคปซูล มีประมาณสารสำคัญเท่าไหร่ ต้องทานวันนึงกี่แคปซูล ทานวันละกี่ครั้ง
  • แจ้งเภสัช หรือ แพทย์ทุกครั้งว่า มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่า เราสามารถทานอาหารเสริมหรือสมุนไพรนั้นๆ หรือไม่
  • คนที่เป็นโควิด สีเหลือง สีแดง ต้องกินยาที่หมอสั่ง ไม่ใช่ทุกคนที่กินยาสมุนไพรได้

สำหรับคนที่ยังไม่ติดเชื้อ และ ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน สิ่งที่ต้องทำคือ หาวิธีป้องกันตัวเอง ตอนนี้ยังไม่มีสมุนไพร หรือ ยาชนิดไหน ที่ช่วยป้องกันโควิดได้ แม้แต่ตัววัคซีนเองก็ป้องกันไม่ได้ วัคซีดจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะโรค เพื่อไม่ให้เชื้อลงปอด ทำให้อาการไม่หนัก หากติดโควิด ในทางกลับกัน คนที่ยังไม่ฉีด เราทำได้เพียงสร้างภูมิคุ้นกันทั่วไปเพิ่มขึ้นได้เท่านั้นเอง ทำให้ร่างกายต่อสู้กับไวรัสช่วงแรกดีกว่า ภูมิคุ้มกันน้อย สิ่งสำคัญอีกอย่างคือห้ามเครียด ความเครียดจะทำให้ภูมิคุ้มกันตก รวมทั้งออกกำลังกายสม่ำเสมอ ระหว่างนี้ก็เลือกทานสมุนไพรไทยที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เช่น กระชายขาวสกัด หรือ อื่นๆ ก็ได้

แหล่งข้อมูล

 

dr.warranyu สารสกัด กระชายขาว ด้านโควิด